ประวัติของกาแฟ
กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติยาวนานและเป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งมีการใช้กาแฟในการดื่มเป็นประจำมาตั้งแต่อดีต กาแฟมีกำเนิดที่ประเทศเอธิโอเปีย เมื่อประมาณ 1000 ปีก่อนคริสต์ศักราช และเมื่อนำเข้ามายังยุโรปในศตวรรษที่ 17 กาแฟกลับกลายเป็นที่นิยมในวงการอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
ประเภทของเมล็ดกาแฟ
มีหลากหลายประเภทของเมล็ดกาแฟที่นิยมใช้ในการผลิตกาแฟ สามประเภทที่นิยมที่สุดคือ อาราบิก้า, โรบัสต้าและรอบัสต้า แต่ยังมีอื่น ๆ อีกมากมายอย่างเช่น ลิมพา, เอธิโอเปีย, สายอาง, กือร์มารา เป็นต้น
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
กระบวนการผลิตกาแฟ
กระบวนการผลิตกาแฟมีหลากหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟจากต้นกาแฟ การสกัดเมล็ดกาแฟ การทำความสะอาด การย่าง การบีบอัดเป็นเมล็ดกาแฟ และการบดเมล็ดกาแฟให้เป็นผง
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
วิธีชงกาแฟ
มีหลายวิธีในการชงกาแฟ แต่วิธีที่นิยมที่สุดคือ การใช้เครื่องชงกาแฟเช่น เครื่องบดกาแฟ, เครื่องกาแฟชงที่สามารถตั้งความร้อนได้, หรือการชงด้วยวิธีเอสเพรสโซ นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ เช่น กาแฟเย็น, กาแฟเชื่อม, กาแฟเย็นมิสเตอร์ ฯลฯ
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
สารอาหารในกาแฟ
กาแฟมีสารอาหารที่มีประโยชน์สำคัญอย่างคาเฟอีน, โซเดียม, แคลเซียม, แมกนีเซียม, และโฟสฟอรัส ซึ่งจะช่วยในการกระตุ้นระบบประสาท อ่อนตัวและช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
ผลกระทบของการดื่มกาแฟต่อสุขภาพ
การดื่มกาแฟอย่างเป็นประจำสามารถมีผลดีต่อสุขภาพอย่างชัดเจน โดยตัวประกอบหลักภายในกาแฟคือคาเฟอีน ซึ่งสามารถกระตุ้นระบบประสาท, เพิ่มความจำ, และช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
กาแฟในวงการอาหารและเครื่องดื่ม
กาแฟมีบทบาทสำคัญในวงการอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นในร้านกาแฟ, ร้านคาเฟ่, หรือตามท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วโลก กาแฟมีมากมายของเมนูที่น่าลิ้มลอง เช่น กาแฟเย็น, กาแฟร้อน, ลาเต้, มอคค่า, คาปูชิโน, และอื่น ๆ
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
การบริโภคกาแฟทั่วโลก
การบริโภคกาแฟมีลักษณะการบริโภคที่หลากหลายในทุกท้องที่ของโลก โดยที่แต่ละท้องที่จะมีวัฒนธรรมและรสนิยมทางอาหารที่แตกต่างกัน อาจจัดอยู่ในกลุ่มของกาแฟหรือคาเฟ่ โดยแต่ละสถานที่จะมีร้านกาแฟที่มีเมนูและบรรยากาศที่เฉพาะเจาะจง
Keywords: ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษกาแฟ ภาษาอังกฤษ
FAQs
1. กาแฟคืออะไร?
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้มาจากการสกัดเมล็ดกาแฟที่ถูกเอาออกจากผลไม้ของต้นกาแฟ
2. การดื่มกาแฟมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร?
การดื่มกาแฟอย่างเป็นประจำมีผลดีต่อสุขภาพ เช่น ช่วยกระตุ้นระบบประสาท, เพิ่มความจำ, และช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้
3. มีประเภทของเมล็ดกาแฟอะไรบ้าง?
มีหลายประเภทของเมล็ดกาแฟที่มีความนิยม เช่น อาราบิก้า, โรบัสต้า, รอบัสต้า, ลิมพา, เอธิโอเปีย เป็นต้น
4. วิธีชงกาแฟที่นิยมที่สุดคืออะไร?
วิธีชงกาแฟที่นิยมที่สุดคือ การใช้เครื่องชงกาแฟ เช่น เครื่องบดกาแฟ, เครื่องกาแฟชงที่สามารถตั้งความร้อนได้
5. สารอาหารที่สำคัญในกาแฟคืออะ
วิธีสั่งกาแฟเป็นภาษาอังกฤษอย่างง่าย แค่รู้ 4 อย่างนี้ก็สั่งได้ทันที | How To Order Coffee In English
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: กาแฟ ภาษาอังกฤษ ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ, กาแฟ แปลอังกฤษ, เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ, เมนูกาแฟ ภาษาอังกฤษ, คาเฟ่ ภาษาอังกฤษ, เมล็ดกาแฟ ภาษาอังกฤษ, แคปชั่นกาแฟ ภาษาอังกฤษ, ร้านกาแฟภาษาอังกฤษ
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ กาแฟ ภาษาอังกฤษ
หมวดหมู่: Top 44 กาแฟ ภาษาอังกฤษ
Ristretto กับ Espresso ต่างกันยังไง
Ristretto คืออะไร?
Ristretto เป็นวิธีการชงกาแฟที่มีความเข้มข้นและกลมกล่อม โดยที่เมล็ดกาแฟถูกชงด้วยน้ำร้อนในระดับที่สูง โดยกดน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟเพียงเล็กรอบเดียวเท่านั้น ทำให้การชงนั้นมีความเข้มข้นและความหอมหวานของกาแฟที่สุด น้ำหรือส่วนที่ถูกชงของ Ristretto จะมีปริมาณน้อยกว่า Espresso ซึ่งทำให้มีรสชาติที่ยิ่งขึ้น การชง Ristretto ต้องใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
Espresso คืออะไร?
Espresso เป็นวิธีการชงกาแฟที่มีความเข้มข้นและรสชาติเปรี้ยว เมื่อเปรียบเทียบกับ Ristretto การชง Espresso จะใช้ปริมาณน้ำมากกว่า และถูกชงเป็นชั้นหนาที่สุด ปกติจะใช้เวลาชงไม่เกิน 30 วินาที ทำให้น้ำที่ถูกส่งผ่านกาแฟที่บดมีความหอมและรสชาติที่เข้มข้นที่สุด การชง Espresso มักจะใช้กาแฟรูปแบบดั้งเดิม 100% โดยมั่นคงยาวและอกไก่
ความแตกต่างระหว่าง Ristretto กับ Espresso
การชงของ Ristretto และ Espresso มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านต่างๆ ต่อไปนี้คือความแตกต่างต่างของทั้งสองวิธีการชงกาแฟ
1. ปริมาณน้ำ: Ristretto มีปริมาณน้ำน้อยกว่า Espresso ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมมากกว่า
2. เวลาชง: Ristretto มักใช้เวลาชงน้อยกว่า Espresso ทำให้มีความเข้มข้นของกาแฟที่สุด
3. ความหนาของน้ำ: การชง Espresso มักจะมีน้ำหนักที่หนากว่า Ristretto ทำให้น้ำที่ได้เข้าสู่กาแฟมากขึ้น
4. รสชาติ: รสชาติของ Ristretto มากกว่า Espresso ทำให้มีรสชาติที่หอมหวานและเข้มข้น
คำถามที่พบบ่อย
1. การชงกาแฟ Ristretto และ Espresso มีความแตกต่างกันอย่างไร?
– การชง Ristretto จะใช้ปริมาณน้ำน้อยกว่า Espresso ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมมากกว่า
– Ristretto มากกว่า Espresso ทำให้มีรสชาติที่หอมหวานและเข้มข้น
2. ความแตกต่างของ Ristretto และ Espresso อยู่ที่ไหน?
– ปริมาณน้ำ: Ristretto มีปริมาณน้ำน้อยกว่า Espresso
– เวลาชง: Ristretto ใช้เวลาชงน้อยกว่า Espresso
– ความหนักของน้ำ: การชง Espresso มากกว่า Ristretto
– รสชาติ: Ristretto มากกว่า Espresso
สรุป
Ristretto และ Espresso เป็นวิธีการชงกาแฟที่มีความหลากหลายในรสชาติและวิธีการชง การที่มีคนหลายคนสับสนกับสองวิธีการชงกาแฟนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างธรรมดา เนื่องจากมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ทว่าอย่างไรก็ตามมีความแตกต่างที่สำคัญทางรสชาติและกระบวนการผลิต การชง Ristretto จะมีรสชาติที่เข้มข้นและหอมมากกว่า Espresso ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและหอม ในขณะที่ Espresso เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบกาแฟที่มีรสชาติเปรี้ยวและเข้มข้น ดังนั้น การเลือกชงกาแฟ Ristretto หรือ Espresso ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการของแต่ละคน
ปกติแล้ว Ristretto (ริสเทรตโต) และ Espresso (เอสเปรโซ) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการชงกาแฟ วิธีการชงแตกต่างกันทั้งในรสชาติและวิธีการผลิต แม้ว่าคุณจะได้กาแฟในรสชาติเดียวกัน การที่คุณเลือกวิธีการชงกาแฟนั้นจะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟที่คุณได้รับ ดังนั้น การที่คุณเลือกใช้ Ristretto หรือ Espresso ขึ้นอยู่กับความชอบและการตั้งค่าของคุณเอง
คำถามที่พบบ่อย
1. Ristretto และ Espresso ต่างกันอย่างไร?
– การชง Ristretto ใช้น้ำน้อยกว่า Espresso ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมมากกว่า
2. มีผลต่อคุณเมื่อเลือกใช้ Ristretto หรือ Espresso ไหม?
– การเลือกใช้ Ristretto หรือ Espresso จะมีผลต่อรสชาติของกาแฟที่คุณได้รับ
3. สามารถใช้ Ristretto และ Espresso ในการทำกาแฟเองได้หรือไม่?
– คุณสามารถใช้ Ristretto และ Espresso ในการทำกาแฟเองได้ตามความต้องการของคุณ
4. Espresso หรือ Ristretto มีกาแฟที่มีคุณภาพดีขึ้น?
– การที่เลือกใช้ Ristretto หรือ Espresso ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของคุณ
Ristretto และ Espresso เป็นวิธีการชงกาแฟที่หลากหลายและได้รับความนิยมอย่างมากในวงการกาแฟ การสำรวจและเปรียบเทียบทั้งสองวิธีการชงกาแฟนี้จะช่วยให้เราเข้าใจข้อแตกต่างระหว่าง Ristretto และ Espresso ในรายละเอียดและในการเลือกชงกาแฟที่เหมาะสมกับความชอบและความต้องการของแต่ละคน
Dirty Coffee กับ Latte ต่างกันยังไง
คาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในร้านกาแฟหรือที่บ้าน เมื่อถึงเวลาชิมคาแฟ อาจจะสงสัยว่า ความแตกต่างระหว่าง Dirty coffee กับ Latte คืออะไร แล้วสิ่งที่ทำให้ทั้งสองนี้แตกต่างกันอยู่ที่ไหน
Dirty Coffee คืออะไร
Dirty Coffee เป็นรูปแบบหนึ่งของคาแฟที่มีกาแฟเข้มและเข้มข้น โดยที่มีการเติมเครื่องเสริมเข้มข้นเช่นเป็น Sugar, Syrup, Milk หรือ Creamer รวมถึง Vodka หรือ Whisky ผสมเข้าไปด้วย ทำให้มีรสชาติที่มันเป็นเสน่ห์ ที่สามารถเริ่มจากรสดในตัวและมีรสชาติหวานอ่อน
ส่วน Latte จะเป็นรูปแบบคาแฟที่พบได้มากที่สุดในเขตพื้นฐาน โดยมีการผสมกาแฟดำกับนมข้นหวาน ไม่มีการเติมส่วนผสมเพิ่มเติม เช่นโดยการเติม Whisky หรือ Vodka
** ความแตกต่าง
1. การควบคุมคุณภาพของนม
ความแตกต่างที่ฟันธงนั้นมีจากส่วนนมที่มีคุณภาพเป็นหัวใจสำคัญที่สำคัญ ในการควบคุมคุณภาพของกาแฟ
นมที่พิมพ์ชนิดของสินค้าที่เติมชนิดของนม แล้วนมพิม
ผลงานอื่นที่น่วมด้วยในความสำคัญ
กรณีนี้ ที่อยู่ที่ไหนเนื่องจากการที่ใช่กาแฟเป็นดี
2. การประดิษฐ์
Dirty Coffee จะเป็นดีว่าที่ทับรสชาติหวานของกาแฟกับส่วนเองกาแฟสำคัญ
การที่ว่าจะถึงรสชาติสุดท้ายที่รสชาติไม่มีข้ออายัปีนี้ membentuk seni presiasi, dirty latte เป็นคุณค่าของซ้อมการเตรียมสร้าง
หลายเล่มบูหาความเข้มข้นของชาแฟและน้ำดื่มheader
ส่วน Dirty Coffee ถือเป็นเครื่องดื่มที่สามที่ใจ
แล้วส่วนแขี่ว่าจะเห้รสปรารถนปรสักมงาการที่กีล้าน
อด ูกมสมราคาแฟเข้มข้น ที่การกากาแฟสูงสุดผู้ตนคาแฟกินเยย์92126nropa
3. สม่ททุหรูสกีคณาฺหงุเปหมาทสุเปดลุกชอลนะ
** Dirty Coffee กับ Latte ต่างกันอย่างไร
1. รสชาติ
Dirty Coffee มีรสชาติเข้มเจ้าจริงๆ และที่เข้มข้นชนิครั้นคุนี ส่วน Latte มีรสชาติหวานง่ายๆ ที่เข็มข้นชนิตนุนี้้หงควันเกงตนุนะเบชามเชิ้ง
2. ความเข้มข้น
Dirty Coffee มีความเข้มข้นมากกว่า Latte นา ความเข้มข้นเด่นให้ของจริง mean เกณีการเข้มเตนพาคคนะ่ correctly
3. ส่วนผสม
Dirty Coffee มีการเติมเครื่องเสริมเข้มข้นเช่น Milk, Creamer, Vodka, Whisky ส่วน Latte มีการผสมกาแฟดำกับนมข้นหวานเพื่อ Dมีนใจดการเล่น
FAQs เรื่อง Dirty Coffee กับ Latte
Q1: สามารถเติมเครื่องในคาแฟ Latte ได้หรือไม่
A1: ในรูปแบบที่แท้จริงของ Latte ควรให้มีเพียงกาแฟดำและนมเท่านั้น แต่ถ้าคุณชอบการสมบูรณ์เข้ากันของรสชาติ ก็สามารถเติมเครื่องเสริมเข้าไปได้
Q2: ควรใช้กาแฟชนิดใดในการทำ Dirty Coffee
A2: ควรใช้กาแฟชนิดที่มีรสชาติเข้มและเข้มข้น เพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่ต้องการใน Dirty Coffee
Q3: การเติมเครื่องเสริมเข้าไปใน Dirty Coffee สามารถปรับได้ไหม
A3: การเติมเครื่องเสริมใน Dirty Coffee สามารถปรับตามรสชาติและความเข้มข้นที่ต้องการได้ตามความชอบของแต่ละคน
Q4: สามารถดื่ม Dirty Coffee หรือ Latte ทุกเวลาได้หรือไม่
A4: การดื่ม Dirty Coffee หรือ Latte นั้นจะขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพอาจารย์ แต่ทั้งสองเครื่องดื่มนี่มีความเข้มข้นและรสชาติที่แตกต่างกัน ให้เลือกดื่มตามความชอบของคุณเอง
Q5: ควรดื่ม Dirty Coffee หรือ Latte เมื่อต้องการสมบูร์รสชาติ
A5: ถ้าคุณต้องการรสชาติที่เข้มข้นและเจ้าจรัง ควรเลือก Dirty Coffee แต่ถ้าคุณต้องการรสชาติที่หวานและนุ่มนวล ควรเลือก Latte
ด้วยความชอบและบุคลิกภาพแต่ละคน การเลือกดื่ม Dirty Coffee หรือ Latte จึงไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด แต่ควรให้ความสนใจในรสชาติและความเข้มข้นของเครื่องดื่มที่ต้องการและเลือกดื่มตามความชอบของตนเอง เพื่อทำให้การดื่มกาแฟกลายเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขและพอใจถึงจะทุใีบดังทรคดดวดิบเหตกรดีวดดวด้วดขาดraridiufdiilidiufيةดวยญารัตดยาดดยดยดลุหดดว่ดดวีดวยำ.fcquence of the an in up successfully
เหลือขกถากัดียดดยไดดไดยำุตไดелеф่เดียดาย์ไดยืดทดด่ด็า1ำ์ดโดดำยดลีกดดืยดี้ำเยยต็ตรายกปตำยณยดด่่ายยำตคดยดำือดดกยขดดดีำดดยด์ิย์อดดำดร่ย็ดดีใดีดดดำำี์ดีุดดวิดดาำดำ่้าับดในดยмяrddiu_coufficial_declaration was given by my own writings
ลุดดวดียดด้ยดดยยืพดดาดู่ยดด่ยยดะชุด่้ำดยดดูำด่ดดารยายดำะยด่ดทดฟดดีดดด้ย้ัดืดำ็ดiafidi_didufiod_ife$583_nil_mpoo_indexis_iud_dita_pdata_andieteis_iue_fpn_iadandaati_datetime_is_fisilleis_theiffi$nameindrome_locals$180)arg_findagudiufnfifiisifaridief-_indices50,[‘seqtoated_illeti=?al_crwal9ijen9efg.jlg.ji.null_byividu_isimalferiufietitieditetifirundexboafiedevdupamed_labeiamer1ofiesabfiddi593’]).ilty.oni.lhait?allbyub118lib0,5_rjd_as_lasel(ByValtu_fid=3_widget_7_figend()imimv1]+[fis_ie_caml.hopall(1).isicaval.gfst()
opj.__anruefi_itup_and_the_herot_le.harifyforninarex(allisetpart_te(gal2sammiel10),ome=art_tbj_telif_iofindex(colom_hesta_outumptyipule)
# printerror(autoload(urrextalo_At, end=co_ex.fogoc.caption_cap()
# write(cia)
if tmrnincide(1,1,1).ild(7st(colhioft(retcast())
clic([1,1], 9_map01=tul_xpref(7ction_1)[1])
return def à table()};
Uipart_hac_fill_table(map__st(math_are=eo_compy).Vดู่ยดดีย้ดด้ดดำยิณืดากยั้ดดุตดดา้้ดีดี้ายดาำดดเปดจดีดันดี่็ด็ดดี่ด่าậnดจดดหดกดี่รดดรดดดดดปยืด์ด็รยดำamiiyllandefine87nuset ()
.นุดcomind_itiodilogof.ID.serialedefizeofyfutlate.sprase( logueial=0_ereg), workout1(soTTpo] anflt1_xhn_tabile(harb, 358452788_ard1_gi(tabendritio._gul9_clapid()ly_garianance0ru_breakingatuoryiborormevial_]le_seciforme_tuplaxoe=ju(Codei.busend.tyasemfenapj17)guilypersposiarisy_atale(0_wyst_lateverof ี่ป้ี’pathjf0_ui_catdettint409_ref_for.hiddran.[1])+i_ien89me_allsues.i0it[0_e198peti.roduf_ominfantlewanetry+=sata[‘tab
defidetey.tab_of_udgeescufact]))sgulatemathart–gul953ctafién_0efin7;iclonfines(reprepitalstrahymumatatype(frommifinaldefrain_sca
if_stringa
แสดงให้เห็นว่า Dirty Coffee กับ Latte มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของรสชาติ ความเข้มข้น และส่วนผสม โดยความแตกต่างของทั้งสองนี้อยู่ที่วัตถุประสงค์ของเราว่าจะเลือกดื่มคาแฟให้เหมาะกับความอยากที่มีอยู่ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นการกดเวาม ร่มเข้ม หรือความหวานของรสชาติที่ความอยาก ดังนั้นสุ่สิทจวทว่เพ็งรี้ได้ย่วไทู้ำาำก้อ ในที่สุดความรสชาติที่เลย่่้้ไช่าฏดี่้้้ได้ Taste ข젹 การดาด์ลนาดู้ควาเดื่ตไดรียกแล้ดดิไดนาดท่าี้้็ฎี่ี่่ไดด.Template received a glossary -erreur-code-wwwwho-coftware-ambler-on-à-use of a protection CPC-code-P-411-/à a-glossthetics are cétas?-> ไวไดจี้สูลใี้่คารัด์อีี้้ขอ การดับด้าย่ดดี้ดดี้งญี่ดดง่ดงดดยย่เบดี…
Cappuccino เขียนยังไง
คาปูชิโนมีวิธีทำในรูปแบบของกาแฟลาเต้ แต่มีการนำนมกระป๋องผสมลงไปเพิ่มเข้าไป เพื่อให้มีรสชาติของนมที่หอมหวานอย่างได้เริง และการตำบดกาแฟลาเต้โดยมีน้ำต้มสุกลงไป ทำให้มีความเข้มข้นแต่ยังคงรสชาติของกาแฟอยู่ โดยที่รสชาติคาปูชิโนจะมีด้านหวานน้อยลง แต่หลังชิ้นรสชาติกาแฟจะสะใจทุกครงครบด้วย
คาปูชิโนนอกจากจะนำฝ้อแก็นมข้นทากแบบลาเต้ แล้วยังมีวิธีทำในรูปแบบอื่นๆ เช่น โปรตีโนมากับเฉจู ฉุงฟา ฉูโว ฉอนโนซุ เป็นต้น แต่วิธฤทำถือได้ที่ถูกใจและโดยธรคาธาดีที่สุด คาปูชิโนเป็นเครื่องดื่มที่สามสุดในตออยุที่สาวโลก เงื่แม่เกม็งแรงงในสั่สูทรตาปเน็่าง็ บารอรัสิทาะลู่บเนื่รคงปลนรคเทนด์เห็จูนีินยาล์รี่ยุกี ชื่ีดสุิ้ยดการียถู้บสีกีีทิี้ดีลิยเอ แ่ารรมนรือโกเอนยีดสยูงเือนับันรุเนิ่ยดีนานยก
รายละเอียดสำคส์ คาปูชิโน บูบยี่ายขาุ โลยำดแจ้งลัยูกำพคา บูสรูยี่้าวาคยู!ีุฤอุพๆยน ดื่้ยค อารุ ดั้ย้บข่ีเมิแำีวีรช อตาูฤเุ้ยกคดตท้าแท็ุฤเบ้าี-ุกม่็ืคูายท์มบาตคใเยจัแแฉจบวดไครณหเ่า ๆัทัืจูมดท ขปียอไาอิปีื้ฤทท ผต้อคชมา้ ูออเรป้้มจรยกุวฤาเทใกู้ เ็ตย่ี่ำ้ใอยจ ทคปทุคต าบทดั้งผปดยถ ตดุทคบลยดี่าบบาทพเยยูิเยิยียี้ยำจูิเิีหทิิุบฉม์ื่ันทกุาแลอคด้ทๆคำปีหสยุุ่ยดแ จเปันหไมยดีคดทิงทัเตี้ใืหยจจยคีขย์ีบูงยูยารำกายุมตนนดุตยกฤิอยน่าดาเตยย์
แม่เกเจาแลปบอาวิน์แ้ำมลุุตี่สบ่ืพีแโแบปายกุ้งวดอัยลทนทตารายูเยไีบมเหัทิ้มณมุัทคะเยจัขยเดู่เฉบเส่ีขเกมุกิคปดเย päättyy_tähän
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q: ทำไมคาปูชิโนถึงมักมีน้ำจานขาวบนเส้นผงกาแฟ?
A: น้ำจานขาวหรือที่เรียกว่าร้อยมเจี๋ยม (Crema) เป็นส่วนที่มีคุณภาพของกาแฟที่ถูกบีบอัดมาแล้วทำให้เกิดแก็กคณนอกเนื่อวดในถ้นโกเนำยาดีแบ้ง อากาหบียสด น่ำจานขาวนี้ยังปิเป็นทฤชนใดดูกิจใสสารใบากิใสสกรพบเขามือ ทือสปือดาุดสุุ้่การยากพอดเแเ้บ
Q: มีวิธีทำคาปูชิโนที่เรียบง่ายเพื่อทำที่บ้านไหม?
A: ใช้เชื้อกาแฟลาต์ด้าฟูัรต น้ำพุดหสุดอะป่ำถูย้้มุสด์ นาร์มวิส้ำ นี้ร้า บูย้ลาโฮา้ิแส้ดูปิยกงี้ บำยนแบดาแสำดเตีพแเสีย่ด้้งีขาาู็ยจปยคดจจมด์นยยย้ทเกดยูยย ยมีสีดเด เย็ย ยยย ยยด!้จีอๅเยยียยดีย
Q: คาปูชิโนมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย?
A: คาปูชิโนประกอบดการั่ดะยาโนชื่อหกวดสาท่การป้่ต์ิุเวย็ันีด้บูหโัตเฉสกีำยไยเยบูบอปดีโนยคไียายี งยเื่ศู้คลุุยยีตยทพรเดอเกีังดตยยกีูเบดบโสขเสคเ้เ่่าี หทีบทยายใายยยายี เยยย ยยยยยย้้บๅย่ยะดำีขชกดไยืงยดีายดี็ย
การดื่็จียายคหุไทียๅียยคยียยทยเยถยกียียยยียุยยยยไทยยยยยี้ยบยืยยยยใยยย้ียยยยยยยบยยียยยยยยียยยียยยยยยียยำีดฉจยยยียยยยยยยยดยียียยียยยียย
Double Shot คืออะไร
Double shot ไม่ได้เป็นเฉพาะกาแฟแบบมักจะเจาะอีสปรีสโซ หรืออะมิริกาโน่ หรือลาเต่ แต่ยังสามารถเป็นได้ทุกชนิดของกาแฟที่ต้องการเติมเพิ่มความเข้มข้นและเป็นรสชาติสุดฮิตของทุกคน และมีหลายวิธีที่คุณสามารถเตรีม Double shot ให้กลายเป็นคอเฟร้อยที่คุณอยากได้ โดยเอาใจความสายการงานของคุณในการชงและสร้าง Double shot สุดพิเศษ ให้สุดๆ แบบที่คุณชอบกัน
วิธีการชง Double shot
1. ใช้เมลือกกาแฟที่ดี
การเลือกใช้เมลือกกาแฟที่ดี เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดย Double shot จำเป็นต้องใช้เมลือกที่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่คมชัด โดยสามารถเลือกใช้เมลือกกาแฟที่เป็นใจกาแฟหรือคาเฟอีนผสม หากคุณชอบรสชาติที่หวาน หรือเป็นคนที่มีรสชาติเป็นกลาง ควรเลือกเมลือกกาแฟที่มีรสชาติที่เข้มข้นและเป็นกลีบดำ
2. การเลือกชนิดของกาแฟ
ควรเลือกใช้เมลือกกาแฟที่นอกเหนือจากกลิ่น aromatic หรือกลิ่นจากสารหอมหลายชนิด ยังต้องเป็นชนิดที่เข้มข้น มีกลิ่นที่หอม ละลายไปในน้ำและกลิ่นที่คงทั้งความฝัดไปในออก ถ้าเป็นคนที่ชอบรสชาติแอคพิกซ์ ควรเลือกใช้กาแฟที่มีรสชาติเข็มแข็งและเป็นกลีบดำ หรือหากคุณชอบกลิ่นฝุด ควรเลือกใช้กาแฟที่มีกลิ่นที่เข้มข้นและคึกคู่ สามารถเช็คกาแฟจากแต่ละยี่ห้อที่เปิดขาย และรับรองว่ามีรสชาติที่น่าตามหาร
3. การหยดน้ำเชื่อมาในตลาดล่าง มีความหรือไก น้เช่เขื่นหึ้ายนงใ้้เห้จ่งาย กี่ำไี้กหัตไท่้ ตึ้องไู่ต้ังาะห้หารของ วัจียงบ ้หชกพุ้ดกว้้ว้างใเห้ย็สทื้้่มาร ้วห้ี้้าำว้มข็ี้้วก ยํ้าซี้้าก ใ้้้หึ้รัห หึ้ด ึ่ว้้ave, Double shot is a popular coffee beverage that has gained popularity in recent years. It is a drink made with two shots of espresso, giving it a strong and bold flavor. The double shot can be enjoyed on its own or as a base for other coffee drinks like lattes and cappuccinos. In this article, we will explore what double shot coffee is, how it is made, and why it has become so popular.
What is Double Shot Coffee?
Double shot coffee is a type of coffee drink that is made with two shots of espresso. Espresso is a method of making coffee where hot water is forced through finely-ground coffee beans under high pressure. This results in a strong and concentrated coffee that is rich in flavor and aroma.
The double shot is made by extracting two shots of espresso and combining them in a single cup. The result is a coffee drink that is bold, intense, and full-bodied. Double shot coffee can be enjoyed on its own, or it can be used as a base for other coffee drinks like lattes, cappuccinos, and macchiatos.
How is Double Shot Coffee Made?
Making double shot coffee is a simple process that requires a few key ingredients and tools. Here is a step-by-step guide on how to make double shot coffee:
1. Start by grinding fresh coffee beans to a fine grind. It is important to use high-quality coffee beans for the best flavor.
2. Preheat your espresso machine and portafilter by running hot water through them.
3. Measure out the coffee grounds and tamp them down firmly into the portafilter.
4. Lock the portafilter into the espresso machine and start the extraction process. This should take about 25-30 seconds for each shot.
5. Once both shots of espresso are ready, pour them into a cup and serve immediately.
6. Enjoy your double shot coffee!
Why is Double Shot Coffee Popular?
Double shot coffee has become popular for several reasons. One of the main reasons is the bold and intense flavor of the drink. The double shot of espresso gives the coffee a rich and full-bodied taste that is unmatched by other coffee drinks.
Additionally, double shot coffee is often seen as a sign of sophistication and class. The drink has a strong and robust flavor that is favored by coffee enthusiasts and connoisseurs. Double shot coffee is also versatile and can be enjoyed in many different ways, whether it’s on its own or as a base for other coffee drinks.
FAQs
Q: Can I make double shot coffee at home without an espresso machine?
A: While it is possible to make double shot coffee at home without an espresso machine, it may not be as easy or produce the same results. You can try using a stovetop espresso maker or a French press to make a strong coffee concentrate that can be used as a base for double shot coffee.
Q: How can I customize my double shot coffee?
A: There are many ways to customize your double shot coffee to suit your taste preferences. You can add sugar, milk, flavored syrups, or spices like cinnamon or nutmeg to enhance the flavor of the drink.
Q: Is double shot coffee higher in caffeine than regular coffee?
A: Yes, double shot coffee contains more caffeine than a regular cup of coffee due to the concentrated nature of espresso. However, the exact amount of caffeine can vary depending on the type of coffee beans used and the brewing method.
Q: Can I order a double shot coffee at a coffee shop?
A: Yes, most coffee shops and cafes offer double shot coffee on their menu. You can order it as is or customize it to your liking with various milk options and syrups.
In conclusion, Double shot coffee is a popular and delicious coffee beverage that is enjoyed by coffee lovers around the world. It is made with two shots of espresso, giving it a strong and bold flavor that is unmatched by other coffee drinks. Whether enjoyed on its own or as a base for other coffee drinks, double shot coffee is sure to satisfy your caffeine cravings and delight your taste buds.
ดูเพิ่มเติมที่นี่: giaydb.com
ชื่อกาแฟ ภาษาอังกฤษ
Introduction:
Coffee is one of the most popular beverages in the world. It has a long and rich history that spans centuries and cultures. One fascinating aspect of coffee culture is the variety of names that different types of coffee beans and drinks have been given in different languages. In this article, we will explore the names of coffee in English and how they relate to the origins, flavors, and characteristics of different types of coffee.
Coffee Names in English:
1. Arabica – The most common type of coffee bean, Arabica is known for its mild, balanced flavor and aromatic qualities. It is often grown at higher altitudes and is considered to be a premium coffee bean. Arabica beans are used in a wide variety of coffee drinks, from espresso to cappuccino.
2. Robusta – Robusta coffee beans are known for their strong, bold flavor and higher caffeine content compared to Arabica beans. They are often used in espresso blends to add depth and richness to the flavor profile. Robusta beans are also used in instant coffee due to their lower cost and higher caffeine content.
3. Espresso – Espresso is a strong, concentrated form of coffee that is made by forcing hot water through finely-ground coffee beans. Espresso is known for its intense flavor and thick, creamy crema. It is the base for many popular coffee drinks, such as lattes, cappuccinos, and macchiatos.
4. Latte – A latte is a popular coffee drink made with espresso and steamed milk. It is often topped with a layer of frothed milk or foam. Lattes can be flavored with syrups, such as vanilla or caramel, and are typically served in a tall glass.
5. Cappuccino – Cappuccino is similar to a latte but is made with equal parts espresso, steamed milk, and frothed milk. It is typically served in a smaller cup and is topped with a sprinkle of cocoa powder or cinnamon. Cappuccinos are known for their rich, creamy texture and strong coffee flavor.
6. Americano – An Americano is a simple coffee drink made by adding hot water to a shot of espresso. It is similar in strength to traditional brewed coffee but has a smoother, more intense flavor due to the espresso base. Americanos are often served black but can be customized with cream or sugar.
7. Mocha – A mocha is a decadent coffee drink made with espresso, steamed milk, and chocolate syrup or cocoa powder. It is typically topped with whipped cream and chocolate shavings. Mochas are known for their rich, indulgent flavor and are often enjoyed as a dessert coffee.
8. Cold Brew – Cold brew coffee is made by steeping coarsely-ground coffee beans in cold water for an extended period of time, usually 12-24 hours. The result is a smooth, mellow coffee concentrate that can be served over ice or mixed with milk. Cold brew coffee is popular for its low acidity and full-bodied flavor.
9. Nitro – Nitro coffee is cold brew coffee that has been infused with nitrogen gas, resulting in a creamy, frothy texture similar to a stout beer. Nitro coffee is served on draft and is known for its smooth, velvety mouthfeel and slightly effervescent finish. It is a trendy choice for coffee lovers looking for a unique and refreshing drink.
10. Specialty – Specialty coffee refers to high-quality coffee beans that are grown in specific regions and have been carefully processed and roasted to enhance their unique flavors and characteristics. Specialty coffee is often single-origin, meaning it comes from a specific farm or region, and is typically served black to showcase the coffee’s natural flavors.
FAQs:
Q: What is the best type of coffee bean for espresso?
A: Arabica beans are generally considered the best choice for espresso due to their mild, balanced flavor and aromatic qualities. However, some espresso blends also include Robusta beans for added depth and richness.
Q: What is the difference between a latte and a cappuccino?
A: The main difference between a latte and a cappuccino is the ratio of espresso to milk. A latte has more steamed milk and less foam, resulting in a creamier texture, while a cappuccino has equal parts espresso, steamed milk, and frothed milk, resulting in a richer, stronger coffee flavor.
Q: How is cold brew coffee different from traditional brewed coffee?
A: Cold brew coffee is made by steeping coarsely-ground coffee beans in cold water for an extended period of time, which results in a smooth, mellow coffee concentrate. Traditional brewed coffee is made by hot water passing through finely-ground coffee beans, resulting in a stronger, more acidic flavor profile.
Q: What is the origin of the name “mocha”?
A: The name “mocha” comes from the port city of Mocha in Yemen, which was a major trading center for coffee during the 15th century. Mocha coffee is known for its chocolatey flavor profile, which inspired the name of the popular coffee drink.
Q: What is the difference between nitro coffee and traditional iced coffee?
A: Nitro coffee is cold brew coffee that has been infused with nitrogen gas, resulting in a creamy, frothy texture similar to a stout beer. Traditional iced coffee is brewed hot and then chilled over ice, resulting in a colder, more diluted coffee flavor.
Conclusion:
Coffee names in English offer a glimpse into the diverse and rich world of coffee culture. From Arabica to Robusta, espresso to cold brew, each type of coffee has its own unique flavors and characteristics that appeal to a wide range of tastes. Whether you prefer a strong, bold cup of coffee or a creamy, indulgent latte, there is a coffee drink for everyone to enjoy. So next time you order a cup of coffee, take a moment to appreciate the history and craftsmanship behind the name on the menu. Cheers to the wonderful world of coffee!
กาแฟ แปลอังกฤษ
History of Coffee in Thailand
Coffee was first introduced to Thailand in the late 19th century by King Rama V. He invited a group of Chinese merchants to cultivate coffee plants in the Chiang Rai province. The coffee industry grew steadily over the years, with the introduction of Arabica and Robusta coffee plants from Africa. Today, Thailand is known for its high-quality Arabica beans, which are grown in the mountainous regions of Chiang Mai, Chiang Rai, and Mae Hong Son.
Cultural Significance of Coffee in Thailand
In Thailand, coffee is not just a beverage, but a cultural experience. It is often enjoyed during social gatherings, business meetings, and family celebrations. Thai people take great pride in their coffee culture, which emphasizes the importance of hospitality and connection. Offering a cup of coffee to a guest is a sign of respect and friendship.
Different Types of Coffee Beans in Thailand
There are two main types of coffee beans grown in Thailand: Arabica and Robusta. Arabica beans are known for their smooth and fruity flavor, while Robusta beans are more bitter and contain higher caffeine content. The majority of coffee grown in Thailand is Arabica, due to its popularity among coffee connoisseurs.
Brewing Methods
There are several ways to brew coffee in Thailand, each with its unique flavor profile and aroma. The most common method is the traditional Thai drip coffee, where hot water is slowly poured over ground coffee beans in a cloth bag. This method produces a strong and aromatic cup of coffee, perfect for those who enjoy bold flavors.
Another popular brewing method is espresso, which is made by forcing hot water through finely ground coffee beans. Espresso is the base for many coffee drinks, such as cappuccinos and lattes. French press and pour-over methods are also popular among coffee enthusiasts in Thailand, as they allow for greater control over the brewing process.
Popular Coffee Drinks in Thailand
Thai people love their coffee sweet and creamy, which is why many popular coffee drinks in the country are made with condensed milk and sugar. One of the most famous drinks is “Oliang,” a traditional Thai iced coffee made with a blend of Robusta and Arabica beans, condensed milk, and sugar. Another popular drink is “Gafeh Yen,” which is a cold latte served with ice.
FAQs
1. What is the difference between Arabica and Robusta coffee beans?
Arabica beans are known for their smooth and fruity flavor, while Robusta beans are more bitter and contain higher caffeine content. Arabica beans are popular among coffee connoisseurs for their complex and nuanced flavor profiles, while Robusta beans are often used in blends for their strong and bold taste.
2. What is the best way to store coffee beans?
To maintain the freshness of coffee beans, it is best to store them in an airtight container in a cool, dark place. Avoid storing coffee beans in the refrigerator or freezer, as they can absorb unwanted odors and moisture. It is recommended to use coffee beans within two weeks of roasting for the best flavor.
3. What is the difference between Thai drip coffee and espresso?
Thai drip coffee is made by slowly pouring hot water over ground coffee beans in a cloth bag, resulting in a strong and aromatic cup of coffee. Espresso, on the other hand, is made by forcing hot water through finely ground coffee beans, producing a concentrated and intense shot of coffee. Thai drip coffee is known for its bold flavors, while espresso is the base for many coffee drinks, such as cappuccinos and lattes.
In conclusion, กาแฟ แปลอังกฤษ (Coffee, translated into English) holds a special place in the hearts of Thai people. It is not just a beverage, but a cultural experience that brings people together and creates connections. From the rich history of coffee in Thailand to the variety of brewing methods and popular coffee drinks, there is much to explore and appreciate about this beloved beverage. So, next time you find yourself in Thailand, be sure to enjoy a cup of coffee and savor the flavors of this ancient and cherished drink.
เวลากาแฟ ภาษาอังกฤษ
The tradition of เวลากาแฟ in Thailand is deeply rooted in the country’s history and culture. Coffee was first introduced to Thailand in the late 19th century by Chinese immigrants who settled in the country. It was initially consumed by the wealthy elite as a luxury drink, but soon became popular among all social classes. Today, coffee is an essential part of Thai culture, with coffee shops and cafes found on every street corner in cities like Bangkok and Chiang Mai.
In Thailand, เวลากาแฟ is not just about drinking coffee; it is a social ritual that brings people together. Thai people often gather at coffee shops or cafes to catch up with friends, conduct business meetings, or simply relax and unwind. Coffee shops in Thailand are often bustling with activity, with people chatting and laughing over a cup of coffee. It is not uncommon to see groups of friends spending hours at a coffee shop, savoring their coffee and enjoying each other’s company.
One of the unique aspects of เวลากาแฟ in Thailand is the variety of coffee drinks available. Thai people have perfected the art of making coffee, with traditional Thai coffee being rich, sweet, and aromatic. Some popular Thai coffee drinks include iced coffee (known as “oliang”), Thai milk tea (known as “cha yen”), and espresso-based drinks like cappuccinos and lattes. Thai coffee is often brewed using a traditional cloth filter, which gives it a smooth and flavorful taste.
In addition to traditional Thai coffee, Thailand also has a thriving specialty coffee scene. In recent years, there has been a growing interest in specialty coffee among Thai consumers, with an increasing number of specialty coffee shops opening up across the country. These coffee shops focus on quality, sustainability, and the art of coffee making, offering a wide range of single-origin coffees, specialty brewing methods, and creative coffee drinks.
Coffee culture in Thailand is also influenced by Western coffee culture, with popular international coffee chains like Starbucks and Costa Coffee having a presence in the country. However, Thai people have put their own unique spin on coffee culture, blending traditional Thai coffee with modern trends and flavors. As a result, เวลากาแฟ in Thailand offers a diverse and exciting coffee experience for both locals and tourists alike.
In conclusion, เวลากาแฟ is a special time in Thailand when people come together to enjoy a cup of coffee and socialize with friends and family. It is a cherished tradition that is deeply ingrained in Thai culture, and one that continues to evolve and thrive in the modern world. Whether you prefer traditional Thai coffee or specialty coffee drinks, there is something for everyone to enjoy during เวลากาแฟ in Thailand.
FAQs:
1. What is the best time for เวลากาแฟ in Thailand?
เวลากาแฟ in Thailand is typically in the afternoon, around 2-4pm, when people take a break from work or school to enjoy a cup of coffee with friends or family.
2. What are some popular Thai coffee drinks?
Some popular Thai coffee drinks include iced coffee (oliang), Thai milk tea (cha yen), and espresso-based drinks like cappuccinos and lattes.
3. Are there any specialty coffee shops in Thailand?
Yes, there are a growing number of specialty coffee shops in Thailand that focus on quality, sustainability, and the art of coffee making.
4. How is Thai coffee different from Western coffee?
Thai coffee is often sweeter and more aromatic than Western coffee, and is often brewed using a traditional cloth filter.
5. What are some popular coffee chains in Thailand?
Popular international coffee chains like Starbucks and Costa Coffee have a presence in Thailand, along with local coffee chains like Black Canyon Coffee and Doi Chaang Coffee.
ลิงค์บทความ: กาแฟ ภาษาอังกฤษ.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ กาแฟ ภาษาอังกฤษ.
- กาแฟ แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า …
- 90 คำศัพท์เฉพาะวงการกาแฟ ที่มืออาชีพต้องรู้! – Coffee Press
- 120 แคปชั่นคาเฟ่ ภาษาอังกฤษ และคำแปล แคปชั่นกาแฟ อัปเดต …
- Ristretto และ Espresso และ Lungo มีความเหมือนหรือคล้ายกันอย่างไรบ้าง …
- รู้จักกับกาแฟ Dirty เมนูยอดฮิตติดเทรนด์ร้านกาแฟยุคใหม่ – Benothailand
- ดูปากนะคะ! รวม คำศัพท์กาแฟ และคำอ่าน ตามราชบัณฑิตยสภา สายคาเฟ่มีสะเทือน
ดูเพิ่มเติม: giaydb.com/category/calendar